เรื่องมันก็มีอยู่ว่าตอนสมัยที่กำลังเรียนอยู่ประมาณ ปวส. ผมจะไปตั้งแผงปล่อยพระตามสนาม เพื่อหารายได้พิเศษครับ เมื่อก่อนนั้นผมจะปล่อยไปด้วยแล้วก็เดินหาของไปด้วย ตรงแผงประจำครับที่วางมันจะเป็นแผงหันหน้าชนกันครับ ผมก็ไปของผมเป็นประจำอยู่แล้ว มีอยู่วันนึงครับผมก็นั่งปล่อยของไป แล้วที่นี้มันว่างครับ ก็เลยลุกขึ้นไปเดินเล่นดูของแต่ไม่ได้ติดกล้องส่องพระไปเดินไปเดินมาก็มีอยู่แผงหนึ่งครับเห็นของมันเยอะดีอยู่เยื้องกับแผงผมไม่ไกลนัก ผมก็ก้ม ๆ เงย ๆ หยิบพระเค้า ผลิกไปผลิกมา ซัก 2-3 องค์เห็นจะได้ หน้าตาคนของพอมีอายุใส่แว่นใหญ่ๆ หน้าตาเอ๋อ ๆ ซึงไม่เคยคุ้นหน้าครับ จากนั้นเค้าก็เริ่มมองหน้าผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ แล้วเค้าก็พูดออกมาว่า "ไม่มีกล้องไม่ต้องหยิบไปไกลๆเลย" จากนั้นผมก็เอ๋อแดกไปเลยครับ แล้วก็เดินกลับแผงด้วยอาการงุนงง ว่าหยิบดูแค่นิดเดียวก็ไม่ได้ ดูก็ไม่ได้ดูเล่นซ่ะหน่อย ผมก็เลยไปถามคนที่มีอายุพอ ๆ กับเค้าว่าเค้าเป็นใครทำไมจึงทำแบบนี้ จึงได้ความว่าเค้าเพิ่งมาใหม่จากที่อื่นครับ ได้ข่าวว่าเป็นเซียนใหญ่จากที่อื่น และอาจจะเก่าจากที่อื่นซึ่งผมไม่ได้เพราะผมเปิดแผงที่เดียวเท่านั้น เรื่องนี้ใกล้จะจบครับแต่ไม่จบเพราะหลังจากนั้นผมก็ไม่เดินเข้าแผงเค้าอีกเลย และช่วงหลังเค้าก็ไม่ค่อยได้มานาน ๆ มาทีครับและแล้วเวลาแก้แค้นของผมก็มีผมนั่งอยู่ดี ๆ ก็เหลือบไปเห็นเค้าเดินมาหาของแต่ไม่ได้วางแผงเข้ามาใกล้ ๆ ครับ และผมก็มั่นใจในหน้าพระของผมมากว่ามันต้องหยุดที่แผงผมอย่างแน่นอน ซึ่งเซียนที่ไหนเห็นก็ต้องหยุดดู และก็เป็นเป็นจริงอย่างว่าจริง ๆ เค้ามาหยุดที่แผงผมแล้วนั่งลงหยิบของผมดูส่งไปส่องมา ผมก็ทำเป็นเฉย ๆ ไว้เหมือนจำเค้าไม่ได้ครับ และก็ได้ยินเสียงที่เราไม่ค่อยอยากได้ยินจากปากเค้าขึ้นมาครับ "องค์นี้เท่าไหร่" ผมสวนควับออกไปทันที่ 2500 ครับ และเค้าก็เงียบ และหยิบส่องต่อ "องค์นี้ละเท่าไหร่" ผมก็บอกว่า 500 ครับ แล้วก็ได้ยินเสียงเค้าพูดออกมาว่า "โห 500 เลยเหรอ 200 ไม่ได้เหรอ รุ่นนี้ราคามันยังไม่ถึงหรอก" ได้ทีผมเลยครับ และตอบช้า ๆ ชัด ๆ เลย สำหรับคุณนะครับ บาทเดียวผมก็ไม่ลดให้ครับ พูดจบผมก็ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ปล่อยให้เค้านั่งหน้าเอ๋อหน้าแผงผมบ้างเป็นอันว่าเราหายกันครับ |