ข้อมูลประวัติ หลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ (หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว) วัดเขาแหลม
"เมื่อก่อนใครจะมาเอาของๆฉันไปบูชา ต้องแบกปืนมาลองด้วย" นี่คือคำกล่าวจากหลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ พระเถราจารย์ผู้มีฤทธิ์อำนาจวาจาประกาศิตด้วยเขี้ยวแก้วกลางเพดานปาก พระเถราจารย์ที่มีบุญอำนาจวาสนา อาคมแก่กล้า ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ วัดเขาแหลม อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว
ประวัติลป.โดย สังเขป
หลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ หรือที่รู้จักกันดีในนามหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว พระเถราจารย์หนึ่งเดียวที่มีเขี้ยวแก้วกลางเพดานปาก ตามประวัติของท่านนั้นหลวงปู่เป็นชาวปทุมธานี คลอง7 ท่านเกิดวันเสาร์ เดือนยี่ พ.ศ. 2462 โยมแม่ท่านเป็นชาวสุพรรณบุรีเป็นน้องสาวของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ดังนั้นท่านจึงมีศักดิ์เป็น หลานชายแท้ๆของหลวงพ่อเนียม พระอภิญญาระดับปรมาจารย์แห่งเมืองสุพรรณบุรี ในขณะที่ท่านถือกำเนิดนั้น มีเรื่องอัศจรรย์ตอนท่านจะถือกำเนิดว่า มีชายคนหนึ่งชื่อ "ลุงบาง" ทำอาชีพหาปลาอยู่ละแวกบ้านของหลวงปู่กาหลง คืนหนึ่งขณะที่ลุงบางออกหาปลาตามปกติ แกได้เห็นว่ามีดวงไฟดังกล่าวไปเพื่อตั้งใจจะดูให้รู้แน่ว่าคืออะไร พอตามไปทัน แกก็กลับเห็นเป็นพระฤาษีตนหนึ่งจูงเด็กน้อยเข้าไปในบ้านของหลวงปู่กาหลง เมื่อลุงบางเห็นเป็นอัศจรรย์ดังนั้น จึงยกมือขึ้นไหว้ด้วยศรัทธาในสิ่งที่ตนเองเห็น แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่าหากสิ่งที่ตนเห็นเป็นจริง เด็กที่เกิดในบ้านต้องเป็นผู้ชาย และหากเป็นเช่นนั้นจริงแล้วตนจะขอเลิกอาชีพหาปลาหันมาเข้าวัดฟังธรรมด้วย ว่าเชื่อแล้วในเรื่องบาปบุญ คุณโทษ ไม่นานโยมแม่ของหลวงปู่กาหลงก็คลอดลูกออกมาเป็นเด็กผู้ชายจริงๆ และให้ชื่อว่า "กาหลง" ส่วนลุงบางเมื่อพบว่าสิ่งที่ตนเห็นเป็นจริงแล้วทุกประการก็เลิกหาปลาแต่บัดนั้น
เมื่อเติมโตท่านก้อสนใจร่ำเรียน วิชาอาคมมาตั้งแต่ในวัยเยาว์ ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 20ปี ณ พัทธสีมาวัดนาบุญ ต.คลอง7 ปทุมธานี โดยมีหลวงพ่อเนียม วัดนาบุญเป็นพระอุปัชฌาย์ ในวันที่หลวงปู่กาหลงบวช ลุงบางผู้ที่เคยเห็นนิมิตประหลาดตั้งแต่ 20 ปี ก่อนได้มาเล่าให้พระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่ฟัง พร้อมทั้งขอถวายตัวเป็นโยมอุปัฐากหลวงปู่มาตั้งแต่บัดนั้น ในขณะที่หลวงปู่กาหลงอยู่วัดนาบุญแห่งนี้ท่านได้ร่ำเรียนวิทยาคมกับหลวงพ่อเนียมและหลวงพ่อซึ้ง จนมีความสามารถทั้งทางกรรมฐาน และวิชาอาคมต่าง ๆ เป็นอย่างดี
มีเรื่องเล่าตอนที่ท่านเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อเนียมและหลวงพ่อซึ้งวัดนาบุญท่านทั้งสองได้เขียนจดหมายไปกราบอาจารย์ของท่านชื่อหลวงปู่ขุขันธ์ เป็นพระเขมร ทั้งนี้เนื้อหาภายในยังได้แนะนำหลวงปู่กาหลงซึ่งเป็นศิษย์ของท่านด้วย หลวงพ่อเนียม หลวงพ่อซึ้งมอบหมายให้หลวงปู่กาหลงนำจดหมายไปให้หลวงปู่ขุขันธ์ ซึ่งอยู่ที่จังหวัด ศรีสะเกษ ตอนที่หลวงปู่ไปพบหลวงปู่ขุขันธ์ ขณะนั้นหลวงปู่ขุขันธ์มีอายุถึง 120 ปี แล้ว
คืนแรก ๆ ที่ท่านไป พระในพื้นที่รูปอื่น ๆ ได้ลองวิชากับท่าน เช่น เสกท่อนฟืน เผาผีเป็นตะขาบนับร้อย ๆ ตัวเลื้อยยั๊วเยี้ยไปหมดแต่ทำอะไรท่านไม่ได้ เพราะหลวงปู่ได้นำเอาตะกรุดที่ตนเองทำเอาไว้มาวางล้อมตัวท่าน ทำให้มันไต่เข้ามาไม่ได้ สุดท้ายท่านก็ร่ายอาคมจับตะขาบเสกให้กลับสภาพเป็นท่อนฟืนอย่างเก่า ถัดจากตะขาบเขาก็เสกก้อนถ่านให้เป็นตัวด้วงมาอีก หลวงปู่กาหลงท่านก็ร่ายพระเวทย์แล้วลูบตัวด้วง ตัวด้วงก็กลายสภาพเป็นก้อนถ่าน หลวงปู่ท่านว่าท่านรู้ว่าใครทำพอในตอนเช้าเท่านั้นแหละพระรูปนั้นหนีไปเลยไม่กล้ามาสู้หน้าท่าน
หลังจากที่เจอหลวงปู่ขุขันธ์แล้วท่านได้ยื่นจดหมายให้ เมื่อหลวงปู่ขุขันธ์อ่านจดหมายเสร็จก็เรียกหลวงปู่กาหลงให้ไปกับท่านที่หลังวัด อันมีดงหนามชนิดต่างๆ กองไว้เต็มพื้น หลวงปู่ขุขันธ์ต้องการเห็นความสามารถของหลวงปู่กาหลงจึงสั่งให้หลวงปู่เดินเท้าเปล่าเข้าไป จนสุดทางแล้วเดินกลับมาหาท่าน หลวงปู่กาหลงก็ไม่ลังเลถอดรองเท้า เดินเท้าเปล่าเข้าไปในดงหนาม ท่านเล่าว่าหนามทิ่มเท้าท่านไม่ได้แต่ก็ทำให้เเสบไปหมด เดินไปรอบหนึ่งหลวงปู่ขุขันธ์จึงให้พอ แล้วบอกว่าถ้าเป็นคนอื่นท่านให้เดิน 3 รอบ แต่เพราะท่านเป็นศิษย์ท่านเนียม ท่านซึ้ง จึงให้เดินแค่รอบเดียว เมื่อผ่านการทดสอบ หลวงปู่ขุขันธ์จึงมอบตำราเล่มหนึ่ง มีเนื้อหาเกี่ยวกับการไล่ผี เสกของ ปล่อยของ วิชาคงกระพัน หลวงปู่กาหลงได้ร่ำเรียนจนครบถ้วน และปัจจุบันท่านได้เก็บรักษาตำราเล่มนี้ไว้เป็นอย่างดี
หลวงปู่กาหลงได้ติดตามหลวงพ่อเนียม วัดนาบุญ มาปลุกเสก ชินราชอินโดจีนที่วัดสุทัศน์และได้มีโอกาศเข้าเฝ้า สมเด็จพระสังฆราชแพ ครั้งต่อมาจึงได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนการผสมสูตรนวโลหะและตำราพิธีกรรมการสร้างพระกริ่งจากพระราชมงคลมุนี(สนธิ์)โดยศึกษาวิชาควบคู่กับหลวงพ่อจำลอง คณะ11 ซึ่งถือว่าท่านเป็นศิษย์เอกมือขวาโดยตรงและยังคุ้นเคยสนิทสนมกับพระราชวิสุทธาจารย์หรือเจ้าคุณแป๊ะอดีตเจ้าคณะ 6เป็นอย่างดีซึ่งท่านเป็นศิษย์สายตรงของสมเด็จพระสังฆราชแพ นอกจากนี้หลวงปู่กาหลงยังเล่าให้ฟังอีกว่าได้เล่าเรียนพระวิปัสสนากัมมัฎฐานและสรรพวิชาต่างๆในนิมิตระหว่างเข้าสมาธิจากครูบาอาจารย์ต่างๆ เช่น ฤาษีปู่เจ้าสมิงพรายที่จูงท่านมาเกิด ท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระ และครูบาอาจาย์อีกหลายท่านที่มรณภาพไปแล้ว พระคณาจารย์ที่เป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่กาหลงมีหลายท่านที่ยังมีชีวิตอยู่และมรณภาพไปแล้ว เช่นหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านเป็นศิษย์ผู้พี่หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ท่านเคยไปปลุกเสกตามวัดต่างๆหลายต่อหลายวัดมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ไปปลุกเสกร่วมกับหลวงปู่โต๊ะ หลังเสร็จพิธีการหลวงปู่โต๊ะถึงกับกล่าวและชี้มาที่หลวงปู่กาหลง ให้หลวงพ่อแช่มวัดนวลนรดิศและศิษย์ที่นั่งอยู่ฟังว่า "พระรูปนี้ชื่ออะไรอยู่วัดไหน ทำไมพลังอำนาจจิตถึงได้รุนแรงพิศดารแบบนี้ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน"
"เขี้ยวแก้ว"หลวงปู่บอกว่าของดีทนี้เกิดขึ้นเองและจะมีก็แต่บุคคลที่พิเศษจริง เช่น ของพระพุทธเจ้าเป็นต้นที่มี ถ้าเป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เรียกว่า"พระเขี้ยวแก้ว"แต่ของหลวงปู่ท่านเรียกว่า"เขี้ยวแก้ว"นับว่าเป็นของกายสิทธิ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเฉพาะผู้มีบุญวาสนาบารมีสูงเท่านั้นและยังสามารถงอกสูงขึ้นและหดเข้าไปได้ด้วยแรงอธิษฐานของท่าน ซึ่งเขี้ยวแก้วนี้มีมาแต่เกิด เมื่อครั้งยังเด็กที่ปลายเขี้ยวมีลักษณะคล้ายรูปองค์พระนั่งสมาธิ แต่เมื่อท่านคิดว่าเป็นถึงรูปองค์พระไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในปากเพราะต้องใช้ฟันบดเคี้ยวอาหาร จึงตั้งจิตอธิษฐานให้หลุดหายไปคงเหลือแต่เขี้ยวแก้วเสมือนหนุมานทหารเอกพระรามที่พระอิศวรได้ประทานกุณฑลขนเพชรเขี้ยวแก้วให้เป็นของวิเศษกายสิทธิ์เพื่อต่อสู้กับศัตรู เวลาใครไปกราบท่านแล้วให้ท่านปลุกเสกของท่านก็มักจะเอามือล้วงไปในปากท่านแตะที่เขี้ยวแก้วของท่านแล้วนำมาคลึง ที่พระหรือของที่มาให้ท่านปลุกเสกเป็นการเพิ่มพลังพุทธคุณ ท่านมักกล่าวอยู่เสมอว่า "ของๆฉันตั้งใจทำมากับมือต่อไปจะมีค่ายิ่งกว่าทองคำจะหายากยิ่งกว่าเพชร" ฉันทำเครื่องรางของขลังทั้งสักทั้งเสกเพื่อคุ้มครองชีวิตคนมาตั้งแต่ปี 2485 แต่ไม่เคยประกาศให้ใครรู้มีแต่บอกต่อกันแบบปากต่อปาก เมื่อก่อนใครจะมาเอาของๆฉันไปบูชาต้องแบกปืนมาลองด้วยถ้าฉันไม่แน่จริงฉันคงสร้างโบสถ์ได้ไม่ถึง8หลังหรอก คือว่าเมื่อก่อนท่านย้ายวัดไปหลายวัดท่านสร้างโบสถ์เสร็จท่านก็ย้ายไปจำวัดอื่น แล้วก็สร้างโบสถ์อีกเป็นแบบอยู่หลายวัด8หลังแล้วที่ท่านสร้างมาท่านสร้างโบสถ์ได้ ตอนนี้ท่านก็หางบทำโปสถ์หลังที่9 เมื่อก่อนท่านสร้างตะกรุดหารายได้เอามาสร้างวัด ตะกรุดของท่านมีประสบการณ์เพียบ หลายๆท่านที่มีอยู่ก็คงได้รับประสบการณมาแล้วกับบางอย่างก็หาไม่ได้เก็บกันหมด
ครูบาอาจารย์ของหลวงปู่
1.หลวงพ่อเนียม วัดนาบุญ จ.ปทุมธานี
1.หลวงพ่อซึ้ง วัดนาบุญ จ.ปทุมธานี ทางหนังเหนียวคงกระพัน พระอาจารย์ท่านนี้หลวงปู่ได้ออกเหรียญของท่านไว้ด้วย โดยหลวงปู่กาหลงปลุกเสกเอง
2.หลวงปู่ช้าง วัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี
3.หลวงปู่ด๊วด วัดกลางคลอง 4 จ.ปทุมธานี
5.หลวงพ่อแข่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม
6.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา
7.หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี
8.หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู จ.ลพบุรี
9.เจ้าคุณพระอินทสมาจารย์(เงิน) วัดอินทรวิหาร จ.กรุงเทพฯ
10.เจ้าคุณพระราชมงคลมุนี(สนธิ์) วัดสุทัศน์ จ.กรุงเทพฯ
11.หลวงพ่อปลื้ม ศิษย์สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยขึ้นครูพร้อมกับ ขุนกล้ากลางผจญ มือขวาของกรมหลวงชุมพรฯ เมื่อปี2485
12.หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
13.หลวงพ่อหวล วัดประดิษฐ์สุวรรณาราม ท่านเก่งทางด้านปลัดขิกเป็นอาจารย์ของหลวงปู่กาหลง และหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก