ข้อมูลประวัติ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมนานุสรณ์ เลย
เกิด วันพุธ เดือน 3 ปีฉลู พ.ศ.2444 ณ บ้านโคกมน จ.เลย นามเดิม บ่อ ต่อมาเปลี่ยนเป็น ชอบ เป็นบุตรของนายมอ นางพิลา แก้วสุวรรณ
บรรพชา ระยะแรกบวชเป็นผ้าขาวก่อน พรรพชาเป็นสามเรณเมื่ออายุย่าง 23
อุปสมบท อายุ 24 ปี ณ วัดส่างโคก (วัดเสมียนมาราม) พ.ศ.2467
มรณภาพ -
ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม มีชาติกำเนินในสกุลแก้วสุวรรณ เดิมชื่อ บ่อ เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444 ตรงกับวันพุธขึ้น 5 ค่ำ เดือน 3 ปีฉลู ณ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
โยมบิดาชื่อ มอ โยมมารดาชื่อ พิลา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 4 คน เป็นชาย 2 คน เป็นหญิง 2 คน มีชื่อเรียกกันตามลำดับคือ
1. ตัวท่าน บ่อ แก้วสุวรรณ
2. น้องสาว ชื่อ พา แก้วสุวรรณ
3. น้องสาว ชื่อ แดง แก้วสุวรรณ
4. น้องชายสุดท้อง ชื่อ สิน แก้วสุวรรณ
ทั้งน้องสาวและน้องชาย รวม 3 คนนี้ปัจจุบันถึงแก่กรรมไปตามกาลเวลาหมดแล้ว
โยมบิดามารดาเล่าให้ท่านฟังว่าบรรพบุรุษต้นตระกูลของท่านนั้น เดิมมีถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ที่ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย มีอาชีพหลักคือการทำนา แต่โดยที่พื้นที่ เป็นภูเขาเป็นส่วนใหญ่ การทำนาต้องอาศัยไหล่เขา ยกเดินเป็นขั้นบันไดเป็นชั้นๆ ไปจึงจะปลูกข้าวได้ แม้จะลงแรงทำงานหาเลี้ยงกันอย่างไม่ยอมเหนื่อย ต้องทำไร่ตามดอย เพิ่มเติม แต่ก็ไม่ค่อยพอปากพอท้อง โดยเฉพาะบางปีถ้าฝนแห้งแล้ง ข้าวไม่เป็นผล พืชล้มตาย ก็อดอยากแร้นแค้น จึงได้คิดโยกย้ายไปแสวงหาถิ่นทำกินใหม่ ซึ่งจะเป็นที่ราบลุ่ม อันไม่เป็นที่ดอยที่เขาเช่นแต่ก่อน
ตระกูลของท่านพากันอพยพหนีความอัตคัดฝืดเคือง มาหภูมิสำเนาใหม่ ผ่านหุบเหวภูเขาสูงของอำเภอด่านซ้าย ผ่านป่าดงพงทึบของภูเรือ ภูฟ้า ภูหลวง ได้มาพบชัยภูมิใหม่เหมาะ คือที่บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง ยังเป็นที่รกร้างว่างเปล่าใกล้หุบห้วย เหมาะแก่การเพาะปลูก จึงช่วยกันหักร้างถางป่า ออกเป็นไร่นาสาโท คงยึดอาชีพหลักคือการทำนาเช่นเดิม
ณ ที่บ้านโคกมนนี้เอง ที่เด็กชายบ่อ บุตรชายคนหัวปีของสกุลแก้วสุวรรณได้ถือกิเนิดมาเป็นประดุจพญาช้างเผือกที่มีกำเนิดจากกลางไพรพฤกษ์ ทำให้ชื่อป่าที่เกิด ของพญาช้างเผือกนั้น เป็นที่รู้จักขจรขจายไปทั่วสารทิศ...ฉันใด หลวงปู่ก็ทำให้ชื่อ "หมู่บ้านโคกมน" บ้านที่เกิดของท่านเป็นที่รู้จัก เป็นที่จาริกแสวงบุญ ของบรรดาชาวพุทธ ทั่วประเทศ ... ฉันนั้น
ชีวิตตอนเป็นเด็กของท่าน นับว่ามีภาระเกินวัยด้วยเกิดมาเป็นบุตรหัวปี ต้องมีหน้าที่ช่วยบิดามารดา ทำการงานในเรือกสวนไร่นา พร้อมทั้งต้องทำหน้าที่พี่ใหญ่ ดูแลน้องๆ หญิงชายทั้งสามด้วย
บ้านโคกมนในปัจจุบันนี้ แม้ว่าผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านจะคุยให้เราฟังว่า มีความเจริญขึ้นกว่าเมื่อเจ็ดสิบปีก่อนอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ในสายตาของเราชาวกรุง ก็ยังเห็นคงสภาพเป็นบ้านป่าชนบทอยู่มาก ดังนั้นหากจะนึกย้อนกลับไป สมัยที่ท่านยังเป็นเด็กเล็กอยู่ ณ ที่นั้น บ้านเกิดของท่าน ก็คงมีลักษณะเป็นบ้านป่าเขา ที่น่าเห็นใจอย่างยิ่ง สมาชิกทุกคนในครอบครัว ต้องช่วยกันตัวเป็นเกลียว โดยไม่เลือกว่าผู้ใหญ่หรือเด็ก ระหว่างที่พวกผู้ใหญ่ต้องไถ หว่านปักกล้า ดำนา เด็กๆ ก็ต้องเลี้ยงควาย คอยส่งข้าวปลาอาหาร เด็กโตหรือลูกหัวปีอย่างท่าน ก็ต้องช่วยในการไถ ปักกล้า ดำนาด้วยขณะเดียวกันก็ต้องคอยดูแลน้องๆ กลับจากทำนา ก็ต้องช่วยกันหาผักหญ้า หน่อหวาย หน่อโจด หน่อบง หน่อไม้ รู้จักว่ายอดอ่อนของต้นไม่ชนิดใดในป่าในท้องนาควรจะนำมาเป็นอาหารได้ เช่น ยอดติ้วใบหมากเหม้า ผ้าดระโดน...
โดยมากเด็กชายบ่อจะพอใจช่วยบิดามารดา ทางด้านเรือกสวนไร่นามากกว่ากล่าวคือ จะช่วยเป็นภาระทางด้านเลี้ยงควาย ไถนา เกี่ยวข้าว หาผักหญ้า แต่ด้านการหาอาหารที่ต้องเกี่ยวเนื่องด้วยชีวิตผู้อื่น เช่น การจับปู ปลา หากบ เขียด มาเป็นอาหารประจำวันอย่างเด็กอื่นๆ นั้น ท่านไม่เต็มใจจะกระทำเลย ยิ่งการเล่นยิงนก กระรอก กระแต ที่เด็กต่างๆ เห็นเป็นของสนุกสนานนั้น ท่านจะไม่ร่วมวงเล่นด้วยอย่างเด็ดขาดพูดง่ายๆ ท่านไม่มีนิสัยทาง "ปาณาติบาต" มาแต่เด็กนั่นเอง
วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม
หลวงปู่ชอบ เป็นพระกัมมัฎฐาน สายพระอาจารย์มั่น เป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่พระศาสนา กระทั่งท่านมรณภาพ สำหรับวัตถุมงคลลูกศิษย์ที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาสร้างขึ้นและนำมาให้ท่านอธษฐานจิตให้ มีหลายรุ่น เช่น
รูปเหมือนหล่อ เนื้อนวโลหะ ปี พ.ศ.2517 ที่ระลึกในงานผ้าป่าสามัคคี หลวงปู่ชอบ ปลุกเสกเป็นกรณีพิเศษ ก่อนนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้ง ที่วัดสิริสาละวัน จ.อุดรธานี เมื่อ 28 ก.พ.17
เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.2514 (รุ่นโบสถ์น้ำ) สร้างจำนวน 4,000 เหรียญ
เหรียญรุ่นสอง รุ่นพิเศษ (สมโภชศาลา) จำนวน 10,000 เหรียญ
เหรียญรุ่นสาม รุ่นพิเศษ 2 จำนวนไม่เกิน 10,000 เหรียญ
เหรียญรุ่นสี่ เป็นเหรียญรูปไข่ สร้างปี พ.ศ. 2517
พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา
พุทธคุณในวัตถุมงคลของท่านไม่ว่าเก่า-ใหม่ เด่นทางเมตตามหานิยมเป็นหลัก