ข้อมูลประวัติ หลวงพ่ออ้วน โสภโณ วัดบ้านโนนค้อ ศรีสะเกษ
"พระครูโสภณคุณากร" หรือ "หลวงพ่ออ้วน โสภโณ" วัดบ้านโนนค้อ อ.กันทรารมย์ (ปัจจุบัน เป็นอำเภอโนนคูณ) จ.ศรีสะเกษ พระเกจิชื่อดังของเมืองศรีสะเกษ ยุคเดียวกับหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอเหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ และ หลวงพ่ออ่อน วัดเพีย มาตร อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งท่านทั้งสามเป็นสหมิกธรรมกัน
ชาติภูมิ หลวงพ่ออ้วน เกิดในสกุล สืบวงศ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม 2434 ตรงกับแรม 14 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ณ บ้านเลขที่ 16 หมู่ที่ 1 บ้านโนนสังข์ ต.โนนสังข์ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ โยมบิดา-มารดา ชื่อ คุณพ่อจูมและคุณแม่ทุม สืบวงศ์ ครอบครัวมีพี่น้อง 5 คน
เมื่ออายุ 16 ปี ท่านบรรพชาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2450 ณ วัดโพนทราย ต.หนองบัว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีเจ้าอธิการสุวัณณี กัลยาโณ เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ 2453 ณ วัดโพนทราย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีเจ้าอธิการสุวัณณี กัลยาโณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระลุน ธัมมวโร เป็นพระกรรมวาจรย์ และพระโฮม วรธัมโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้วท่านแสวงหาความรู้ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านพระธรรมวินัย และท่านไปศึกษาตามสำนักใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงและมีครูบาอาจารย์ที่เคร่งครัดในด้านพระธรรมวินัย
พ.ศ.2456 ย้ายไปเรียนหนังสือมูลกัจจายน์ คัมภีร์ทั้ง 5 (เป็นหลักสูตรของโบราณอีสาน) อยู่ที่วัดบ้านยางขี้นก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี กับท่านธรรมบาล ซึ่งท่านธรรมบาลเป็นอาจารย์ใหญ่ สายสำเร็จลุน
พ.ศ.2464 ท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านแสงใหญ่ ต.หนองแวง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเรียนวาดลวดลายผ้าพระเวสสันดรกับพระอาจารย์โท เป็นเวลา 1 ปี เมื่อท่านฝึกการวาดได้อย่างสวยงามจนเป็นที่พอใจของพระอาจารย์โท ท่านจึงย้ายกลับวัดโนนสังข์
พ.ศ.2476 ท่านได้ย้ายไปจำพรรษาวัดบ้านหนองดินดำ ต.บก อ.กันทรารมย์ (ปัจจุบัน อ.โนนคูณ) คนเฒ่าคนแก่เคยเล่าขานกันมาว่าตั้งแต่ท่านได้ย้ายมาอยู่วัดนี้ ได้เกิดสิ่งอัศจรรย์ คือ ใต้ที่นอนของท่านได้เกิดดินประสิวที่เอามาทำบั้งไฟเป็นจำนวนมาก ด้วยท่านชอบการทำบั้งไฟ
พ.ศ.2483 ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาวัดโนนค้อ หรือชาวบ้านเรียกกันว่า วัดโนน ค้อใน ต.โนนค้อ อ.กันทรารมย์ (ปัจจุบัน อ.โนนคูณ) จ.ศรีสะเกษ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโนนค้อรูปที่ 7
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2489 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำ แหน่งเจ้าคณะตำบลโนนค้อ พ.ศ. 2490 เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2512 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรีในราชทินนามที่ พระครูโสภณคุณากร
ด้านวัตถุมงคลที่สร้างและมีชื่อเสียง คือ เหรียญรุ่นแรก สร้างปี พ.ศ. 2510 จำนวนไม่เกิน 3,000 เหรียญ, เหรียญรุ่นสอง ฉลองพัดยศ สร้างปี พ.ศ.2512 ผ้ายันต์ตะกรุดโทน ชานหมากและรูปถ่ายของหลวงพ่ออ้วน เป็นต้น
สำหรับประสบการณ์ คณะศิษย์ที่มีวัตถุมงคลหลวงพ่ออ้วนไว้ในครอบครอง ต่างร่ำลือกันว่ามีพุทธคุณเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด คงกระพันชาตรี และกันภูตผีปีศาจ
นอกจากนี้ หลวงพ่ออ้วน ยังเป็นพระอาจารย์ของพระเกจิดังในยุคหลังอีก หลายรูป อาทิ หลวงพ่อสังข์ วัดนากันตม อ.กันทราลักษ์ จ.ศรีสะเกษ, หลวงพ่อบุญชู วัดโนนคูณ อ.โนนค้อ จ.ศรี สะเกษ, หลวงปู่บุญ วัดโคกสว่าง อ.สำ โรง จ.อุบลราชธานี, หลวงพ่อพรหมา วัดโนนค้อใน ต.โนนคูณ อ.โนนค้อ จ.ศรีสะเกษ, หลวงพ่อสี วัดโนนค้อนอก ต.โนนคูณ อ.โนนค้อ จ.ศรีสะเกษ, หลวงปู่เพ็ง วัดหนองสนม (ปัจจุบันวัดโคกสะอาด) อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ, หลวงพ่อประสาร วัดโนนผึ้ง อ.กันทรา รมย์ จ.ศรีสะเกษ ฯลฯ
วันที่ 19 ธันวาคม 2514 หลวงพ่ออ้วน ได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบ ณ กุฏิหลังเก่า วัดโนนค้อใน สิริอายุ 80 พรรษา 60
การจากไปของหลวงพ่ออ้วน สร้างความสลดใจแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง คณะศิษย์ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดโนนค้อใน และได้พระราชทานเพลิงศพ เมื่อปี พ.ศ.2516 ณ วัดโนนค้อใน (ปัจจุบันวัดทักษิณธรรมนิเวศน์)
จากนั้นศิษยานุศิษย์ ได้สร้างเจดีย์เพื่อบรรจอัฐิของท่าน เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้กราบไหว้บูชา